โชคดี คลองบางหลวง
"เยือนอดีตตลาดน้ำที่เคยรุ่งเรือง
ตลาดกรุงธนบุรีวัดคูหา
เชิญกราบไหว้พระเจดีย์อยุธยา
เสริมศรัธราสร้างวิถีที่ชุมชน"

ตัวบ้านศิลปิน ที่มองจากเรือขึ้นมา
คำโปรยบนแผ่นพับที่แจกวันเปิดตัว "บ้านศิลปิน" ที่ จรัญสนิทวงศ์ ซอย 3 เมื่อต้นเดือน กันยายน ย้อนกลับไปอาทิตย์ กว่าๆก่อนที่จะเปิดตัวบ้านศิลปิน บังเอิญได้เจอ พี่โกะ ชุมพล อักพันธานนท์ รุ่นพี่ที่คณะ
ดรออิ้ง รูปพี่โกะไป นั่งคุยกันไปที่จุลดิศ
(ถ้าใครเป็นแฟนพันธ์แท้พี่โกะ ก็ต้องรู้จัก โปสการ์ดราคาถูกแต่ ภาพและคำบรรยายในภาพถ่าย ไม่ถูกเหมือนราคาเลย มีอะไรให้เก็บขบคิดได้อย่างมากมาย)ที่จุลดิศเขาใหญ่
พี่โกะ นั่งพักที่ระเบียงทางเดิน
สมาชิกใหม่ของบ้านศิลปิน (ม.ค.2554)
พี่เลยเล่าโครงการอนุรักษ์ ชุมชนคลองบางหลวง ได้รับการติดต่อให้มาช่วยกันดูแล บ้านหลังนี้ ทั้งแรงกายแรงใจและแรงทรัพย์ กับรุ่นพี่และเพื่อนของพี่โกะ เลยชวนให้มาวันเปิดตัวบ้านศิลปิน วันที่ 19 กันยายน ให้เอารูปวาด มาวางโชว์สร้างบรรยากาศด้วย พี่เล่าว่าบ้านหลังนี้เก่ามากไม้ก็ผุพัง ฐานบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ต้องรับน้ำหนักบ้าน งานใหญ่จึงอยู่ การดีดเสาบ้าน หล่อเสาให้อยู่ในสภาพเดิม หมดค่าใช้จ่ายไปมากมาย
ทางเข้าจากจรัญสนิทวงศ์ 3 นี้ก้นซอยแล้ว
เดินเข้ามาเจอสะพานทางขึ้นเลย

บ้านศิลปิน อีกมุมหนึ่ง


ภาพถ่ายความหลังเก่าๆ ของชาวบางกอกใหญ่ที่รวบรวมไว้ให้ดู

ทำไมต้องอนุรักษ์ต้องทุ่มเทมากมาย ต้องไปเห็นไปดูกับตา ถึงจะรู้ว่า ควรค่ากับการทุ่มทุนจริง แค่แวะไปเยือนแล้ว สัมผัสบรรยากาศแล้ว ให้เวลาสักนิด สงบใจกายชื่นชมไปกับภาพที่เห็น ไม่ว่าจะเป็นเจดีย์กลางบ้าน
ที่เป็นจุดเด่น จุดขายของบ้านเลย ชั้นสองที่มองเห็นคลอง ทอดยาวจากทางซ้ายไปทางขวา ด้านข้างมีคลอง ลัดเล็กๆไปตามบ้านตามชุมชน บอกตรงๆเลยอิจฉามากอยากเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้จัง จะมีความสุขมากขนาดไหนนะ



ฝีมือบทกลอน กล่าวถึงวัดคูหาสวรรค์ ของชุมชนนี้
บ้านหลังนี้เป็นบ้านเก่า ตระกูล รักสำหรวจ ทำการค้ามาตั้งแต่ สมัยกรุงธนบุรี โน่น บ้านเป็นทรงมนิลา(ไม่ค่อยรู้เรื่องทรงบ้านเท่าไหร่) อายุนับร้อยปีแล้ว พี่โกะซ่อมโดยเปิดบ้านด้านหลังให้มองดูทะลุกันหมด สวยงามน่าทึ่งจริงๆ เดิมย่านนี้เป็นชุมชนทำทองทั้งย่าน พี่โกะเลยตั้งโต๊ะทำทอง มีช่างมาทำให้ดูด้วย ให้หลงเหลือความหลังไว้ดูบ้าง ถ้าไปที่บ้านนี้ ก็จะเห็นรูปเจ้าของสมัย ร.4 ได้ รุ่นหลังที่เป็นทายาทอยู่ คือ พลเรือเอก ยอดชาย รักสำหรวจ คำยืนยัน วันเปิดตัวบ้านศิลปิน พี่บอกว่าไม่อยากให้เหมือน กับตลาดอัมพวา เห็นด้วยเพราะถ้าเป็นแบบหลัง ความเป็นจิตวิญญาณ ของชุมชนคงไม่เหลืออะไรเลย ทุกอย่างกลายเป็นธุรกิจ ถูกกอบโกยหมดทุกอย่าง อย่างอัมพวา หรือเกาะเกร็ด คนในพื้นที่จริงๆ เหลืออยู่มากน้อยเท่าไหร่ แต่ที่เห็นนี่ ไม่น่าจะเรียกว่ามาเพื่อกอบโกยแต่มาเพื่อช่วยชุมชนมากกว่า มาซ่อมทางเดินระเบียง ที่ผุพังให้ใช้งานได้ เมื่อมีคนมาเยี่ยม คนในชุมชนอาซิม คุณย่า ยาย ห้องใกล้เคียงกันก็ได้อาศัยค้าขายเล็กๆน้อยๆ คืนชีวิตให้ชุมชน มีกิจกรรมให้ชาวชุมชนมานั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เห็นคนเฒ่าคนแก่มาร่วมนั่งพูดคุยกับพี่เขาแล้ว ถือว่าสำเร็จแล้วล่ะ เพราะซื้อใจชาวชุมชนได้ เพราะความตั้งใจและความจริงใจของพี่เขาจริงๆ
ที่สำคัญคือคำว่า "บ้านศิลปิน" จึงเป็นที่มาและที่แสดงงานศิลปะ ที่วางรูปศิลปะให้ผู้มาเยียนได้ชม ได้ซื้อไปด้วย ที่มาก็เพราะระหว่างที่ซ่อมบ้านหลังนี้ วันนั้นฝนตกหนัก มีฝรั่งคนหนึ่งมาจากโอเรียลเต็ล(ถ้าจำไม่ผิด) มาขอแวะพักหลบฝน แล้วได้เห็นงานรูปถ่ายของพี่โกะ เลยสนใจขอซื้อ ไปหลายภาพแต่แกมีแต่บัตรเครดิต ต้องนั่งเรือกลับ โรงแรมไปเอาเงินมาซื้อแล้วนั่งเรือย้อนกลับมาอีก ไม่ได้มาซื้อเพราะเกรงใจหรือตอบแทนที่ได้หลบฝนแต่ซื้อเพราะต้องการจริง ทำให้เป็นที่มาที่พี่โกะได้แนวความคิด และเป็นทางเลือกให้กับคนทำงานศิลปะด้วย ว่าควรจะได้ให้ผู้มาเยี่ยมบ้านได้มาชื่นชมงานศิลป์ไปด้วยจากคลองบางหลวง บางกอกใหญ่ ไปคลองมอญ คลองชักพระ ผ่านตลาดน้ำตลิ่งชันไปออกคลองบางกอกน้อย แล้วทะลุออกแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนจะมาวกกลับมาจบที่ บ้านศิลปินคลองบางหลวงเหมือนเดิม

ภาพวิถีชีวิตของชาวตลาด ชาวคลอง ที่ไปแขวนโชว์
(แฮ่ม!มีงานตัวเองไปวางอยู่ 2 ชิ้น ถ้าไปเที่ยวอย่าลืมแวะดูด้วย)และเป็นที่สำหรับคนต้องการชื่นชมกับงานศิลปะด้วย ต้องยอมรับว่าตอนนี้งานยังน้อยอยู่บ้าง
พี่โกะบอกว่ามีความสุขที่เห็นวิถีชีวิตของที่นี่ อยากให้เป็นแบบนี้ ไม่อยากโหมประชาสัมพันธ์ให้คนไปกันมากๆ จนกลายเป็นอัมพวาสอง แต่อยากให้มาชื่นชมกับ ชีวิตที่งดงาม กับสายน้ำที่ไหลหลับ ทุกๆวันที่นี่
บรรยากาศวันเปิดก็มีดนตรีไทยบรรเลง มีนักไวโอลินตัวน้อย 7 ขวบมาสีหลายๆเพลงให้ฟัง
น้องต้องสู้ บรรเลงเพลงให้ฟังวันเปิดตัว บ้านศิลปิน
ก็ได้เจอทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง อยู่กันยาวค่อนวัน ไฮไลน์ก็ลงเรือชมคลองกัน
ล่องเรือชมคลอง ชมวิถีชีวิตแต่ละคลองที่ผ่านไปกัน
มุมทำงานเล็กๆในบ้านศิลปินของเจ้าแบร์ เพื่อนช่างศิลป์
หุ่นละครเล็กคลองบางหลวง คณะคำนาย มาเปิดวิกที่นี่แล้ว (ม.ค.2554)
อ่านข้อมูล ชมภาพสวยๆของ"บ้านศิลปิน"เพิ่มเติมจาก http://baansilapin.com/home/
"เยือนอดีตตลาดน้ำที่เคยรุ่งเรือง
ตลาดกรุงธนบุรีวัดคูหา
เชิญกราบไหว้พระเจดีย์อยุธยา
เสริมศรัธราสร้างวิถีที่ชุมชน"
ตัวบ้านศิลปิน ที่มองจากเรือขึ้นมา
คำโปรยบนแผ่นพับที่แจกวันเปิดตัว "บ้านศิลปิน" ที่ จรัญสนิทวงศ์ ซอย 3 เมื่อต้นเดือน กันยายน ย้อนกลับไปอาทิตย์ กว่าๆก่อนที่จะเปิดตัวบ้านศิลปิน บังเอิญได้เจอ พี่โกะ ชุมพล อักพันธานนท์ รุ่นพี่ที่คณะ
ดรออิ้ง รูปพี่โกะไป นั่งคุยกันไปที่จุลดิศ
(ถ้าใครเป็นแฟนพันธ์แท้พี่โกะ ก็ต้องรู้จัก โปสการ์ดราคาถูกแต่ ภาพและคำบรรยายในภาพถ่าย ไม่ถูกเหมือนราคาเลย มีอะไรให้เก็บขบคิดได้อย่างมากมาย)ที่จุลดิศเขาใหญ่
พี่โกะ นั่งพักที่ระเบียงทางเดิน
สมาชิกใหม่ของบ้านศิลปิน (ม.ค.2554)
พี่เลยเล่าโครงการอนุรักษ์ ชุมชนคลองบางหลวง ได้รับการติดต่อให้มาช่วยกันดูแล บ้านหลังนี้ ทั้งแรงกายแรงใจและแรงทรัพย์ กับรุ่นพี่และเพื่อนของพี่โกะ เลยชวนให้มาวันเปิดตัวบ้านศิลปิน วันที่ 19 กันยายน ให้เอารูปวาด มาวางโชว์สร้างบรรยากาศด้วย พี่เล่าว่าบ้านหลังนี้เก่ามากไม้ก็ผุพัง ฐานบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ต้องรับน้ำหนักบ้าน งานใหญ่จึงอยู่ การดีดเสาบ้าน หล่อเสาให้อยู่ในสภาพเดิม หมดค่าใช้จ่ายไปมากมาย
ทางเข้าจากจรัญสนิทวงศ์ 3 นี้ก้นซอยแล้ว
เดินเข้ามาเจอสะพานทางขึ้นเลย
ซ้ายมือ บ้านศิลปิน
ขวามือ วัดคูหาสวรรค์
ลงสะพานแล้วเดินไปทางซ้ายมือ บ้านศิลปิน
บ้านศิลปิน อีกมุมหนึ่ง
ทำไมต้องอนุรักษ์ต้องทุ่มเทมากมาย ต้องไปเห็นไปดูกับตา ถึงจะรู้ว่า ควรค่ากับการทุ่มทุนจริง แค่แวะไปเยือนแล้ว สัมผัสบรรยากาศแล้ว ให้เวลาสักนิด สงบใจกายชื่นชมไปกับภาพที่เห็น ไม่ว่าจะเป็นเจดีย์กลางบ้าน
ที่เป็นจุดเด่น จุดขายของบ้านเลย ชั้นสองที่มองเห็นคลอง ทอดยาวจากทางซ้ายไปทางขวา ด้านข้างมีคลอง ลัดเล็กๆไปตามบ้านตามชุมชน บอกตรงๆเลยอิจฉามากอยากเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้จัง จะมีความสุขมากขนาดไหนนะ
ฝีมือบทกลอน กล่าวถึงวัดคูหาสวรรค์ ของชุมชนนี้
บ้านหลังนี้เป็นบ้านเก่า ตระกูล รักสำหรวจ ทำการค้ามาตั้งแต่ สมัยกรุงธนบุรี โน่น บ้านเป็นทรงมนิลา(ไม่ค่อยรู้เรื่องทรงบ้านเท่าไหร่) อายุนับร้อยปีแล้ว พี่โกะซ่อมโดยเปิดบ้านด้านหลังให้มองดูทะลุกันหมด สวยงามน่าทึ่งจริงๆ เดิมย่านนี้เป็นชุมชนทำทองทั้งย่าน พี่โกะเลยตั้งโต๊ะทำทอง มีช่างมาทำให้ดูด้วย ให้หลงเหลือความหลังไว้ดูบ้าง ถ้าไปที่บ้านนี้ ก็จะเห็นรูปเจ้าของสมัย ร.4 ได้ รุ่นหลังที่เป็นทายาทอยู่ คือ พลเรือเอก ยอดชาย รักสำหรวจ คำยืนยัน วันเปิดตัวบ้านศิลปิน พี่บอกว่าไม่อยากให้เหมือน กับตลาดอัมพวา เห็นด้วยเพราะถ้าเป็นแบบหลัง ความเป็นจิตวิญญาณ ของชุมชนคงไม่เหลืออะไรเลย ทุกอย่างกลายเป็นธุรกิจ ถูกกอบโกยหมดทุกอย่าง อย่างอัมพวา หรือเกาะเกร็ด คนในพื้นที่จริงๆ เหลืออยู่มากน้อยเท่าไหร่ แต่ที่เห็นนี่ ไม่น่าจะเรียกว่ามาเพื่อกอบโกยแต่มาเพื่อช่วยชุมชนมากกว่า มาซ่อมทางเดินระเบียง ที่ผุพังให้ใช้งานได้ เมื่อมีคนมาเยี่ยม คนในชุมชนอาซิม คุณย่า ยาย ห้องใกล้เคียงกันก็ได้อาศัยค้าขายเล็กๆน้อยๆ คืนชีวิตให้ชุมชน มีกิจกรรมให้ชาวชุมชนมานั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เห็นคนเฒ่าคนแก่มาร่วมนั่งพูดคุยกับพี่เขาแล้ว ถือว่าสำเร็จแล้วล่ะ เพราะซื้อใจชาวชุมชนได้ เพราะความตั้งใจและความจริงใจของพี่เขาจริงๆ
ที่สำคัญคือคำว่า "บ้านศิลปิน" จึงเป็นที่มาและที่แสดงงานศิลปะ ที่วางรูปศิลปะให้ผู้มาเยียนได้ชม ได้ซื้อไปด้วย ที่มาก็เพราะระหว่างที่ซ่อมบ้านหลังนี้ วันนั้นฝนตกหนัก มีฝรั่งคนหนึ่งมาจากโอเรียลเต็ล(ถ้าจำไม่ผิด) มาขอแวะพักหลบฝน แล้วได้เห็นงานรูปถ่ายของพี่โกะ เลยสนใจขอซื้อ ไปหลายภาพแต่แกมีแต่บัตรเครดิต ต้องนั่งเรือกลับ โรงแรมไปเอาเงินมาซื้อแล้วนั่งเรือย้อนกลับมาอีก ไม่ได้มาซื้อเพราะเกรงใจหรือตอบแทนที่ได้หลบฝนแต่ซื้อเพราะต้องการจริง ทำให้เป็นที่มาที่พี่โกะได้แนวความคิด และเป็นทางเลือกให้กับคนทำงานศิลปะด้วย ว่าควรจะได้ให้ผู้มาเยี่ยมบ้านได้มาชื่นชมงานศิลป์ไปด้วยจากคลองบางหลวง บางกอกใหญ่ ไปคลองมอญ คลองชักพระ ผ่านตลาดน้ำตลิ่งชันไปออกคลองบางกอกน้อย แล้วทะลุออกแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนจะมาวกกลับมาจบที่ บ้านศิลปินคลองบางหลวงเหมือนเดิม
ภาพวิถีชีวิตของชาวตลาด ชาวคลอง ที่ไปแขวนโชว์
(แฮ่ม!มีงานตัวเองไปวางอยู่ 2 ชิ้น ถ้าไปเที่ยวอย่าลืมแวะดูด้วย)และเป็นที่สำหรับคนต้องการชื่นชมกับงานศิลปะด้วย ต้องยอมรับว่าตอนนี้งานยังน้อยอยู่บ้าง
พี่โกะบอกว่ามีความสุขที่เห็นวิถีชีวิตของที่นี่ อยากให้เป็นแบบนี้ ไม่อยากโหมประชาสัมพันธ์ให้คนไปกันมากๆ จนกลายเป็นอัมพวาสอง แต่อยากให้มาชื่นชมกับ ชีวิตที่งดงาม กับสายน้ำที่ไหลหลับ ทุกๆวันที่นี่
บรรยากาศวันเปิดก็มีดนตรีไทยบรรเลง มีนักไวโอลินตัวน้อย 7 ขวบมาสีหลายๆเพลงให้ฟัง
น้องต้องสู้ บรรเลงเพลงให้ฟังวันเปิดตัว บ้านศิลปิน
ก็ได้เจอทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง อยู่กันยาวค่อนวัน ไฮไลน์ก็ลงเรือชมคลองกัน
ล่องเรือชมคลอง ชมวิถีชีวิตแต่ละคลองที่ผ่านไปกัน
แล้วเปิดใจพี่โกะ สัมภาษณ์สนทนาพูดคุยกันอย่างเปิดอก บริการถ่ายรูปฟรี เต็มอิ่มไปกับบรรยากาศในวันนั้น อย่างอบอุ่น
มุมทำงานเล็กๆในบ้านศิลปินของเจ้าแบร์ เพื่อนช่างศิลป์
สตูดิโอเล็กๆ ของพี่บ็อบบี้
ห้องถัดไป ก็เป็นศิลปินรุ่นพี่ที่ช่างศิลป์ พี่บ็อบบี้ มาเช่าห้องเปิดเป็นสตูดิโอ เลยกลายเป็นที่แวะมาพูดคุยความหลังเก่าๆกัน(แล้วจะมีเวลาทำงานกันไหมนี่)
หลังจากนั้นไม่ว่างเลยยาวจนเดือนที่แล้ว พอจะมีเวลาได้แวะไปเยี่ยมบ้านศิลปินอีก ก็พอดีได้เจอพี่โกะอีก โชคดีเพราะพี่เดินสายตลอดที่ธุรกิจที่ ปาย ที่โน่นด้วย เลยได้นั่งเรือชมคลองกันอีกอย่างไม่คาดคิด นั่งเข้าไปแถวตลิ่งชัน ถ่ายรูปมาให้ดูกันด้วย(ไม่รู้รูปไหนรอบแรก รอบหลัง ที่นั่งเรือเพราะจำบ้านแต่ละคลองไม่ได้ )พอดีพี่โกะ ทำโครงการรณรงค์ ให้ลดมลพิษทางเสียงจากเรือ ที่รบกวนชาวบ้าน เห็นไหมไม่ได้มาทำธุรกิจแต่มาช่วยเหลือชาวบ้านด้วย พี่เขาถ่ายเป็นวิดิโอสัมภาษณ์ชาวบ้าน อัดเสียงเรือที่ดังรบกวนชาวบ้าน เลยลงชื่อสนับสนุน ให้แก้ไขมลพิษทางเสียงจากเรือทางชาวบ้านต้องทนฟังมานานแสนนาน เห็นพี่เขาจะไปนำเสนอในงาน วันสถาปนิก ที่อิมแพ็ค เราก็เลยอาศัยเก็บบรรยากาศไปด้วยเลย
วันนี้เลยมาแนะนำให้ไปเที่ยวบ้านศิลปินกัน อย่าไปจินตนาการว่าจะมีอะไรๆให้ดูอย่างน้องๆอัมพวา ไม่ใช่เลย แต่เป็นอะไรที่สงบๆเหมาะกับการ หยุดเวลาเพื่อผาสุก สักครู่สักเวลา แล้วได้อะไรไปบ้าง เล็กบ้างน้อยบ้าง หรืออาจจะเติมเต็มอะไรที่ขาดหายไปสำหรับคนบางคนก็นับว่ามีค่ามากมายแล้ว
หุ่นละครเล็กคลองบางหลวง คณะคำนาย มาเปิดวิกที่นี่แล้ว (ม.ค.2554)
อ่านข้อมูล ชมภาพสวยๆของ"บ้านศิลปิน"เพิ่มเติมจาก http://baansilapin.com/home/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น